icon-facebook icon-line icon-blockdit icon-twitter icon-instagram

ดาวน์โหลดเลย

ดาวน์โหลด qr-code
iconดาวน์โหลดแอปฯ MorDee
background
Bubble
Bubble
Bubble
Bubble

บริการฉีดวัคซีนถึงบ้าน Home Vaccination จากแอปฯ หมอดี สุขภาพดี ยกบ้าน

บริการฉีดวัคซีนถึงบ้าน Home Vaccination จากแอปฯ หมอดี สุขภาพดี ยกบ้าน icon

บริการฉีดวัคซีนถึงบ้าน Home Vaccination คืออะไร?

             Home Vaccination คือ บริการฉีดวัคซีนให้ถึงบ้าน โดยที่คุณไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาล หรือรอคิวนาน ๆ  แต่สามารถรอรับบริการฉีดวัคซีนโดยบุคลากรทางการแพทย์อยู่ที่บ้านหรือที่ทำงานได้เลยชิล ๆ สามารถจองออนไลน์ได้ง่ายๆ ผ่านแอปฯ หมอดี โดยราคาที่ปรากฏในแอปฯ เป็นราคาที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด จ่ายครั้งเดียวจบ ไม่มีบวกเพิ่ม แตกต่างจากการบริการแบบในโรงพยาบาล ที่คุณอาจจะต้องจ่ายค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพิ่มนอกจากค่าวัคซีน เช่น ค่าบริการทางการแพทย์ ค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ และอื่น ๆ 

             บริการฉีดวัคซีนถึงบ้านจากแอปฯ หมอดี จึงเป็นทางเลือกใหม่ที่สะดวกกว่า และประหยัดกว่า แต่มั่นใจได้ว่าจะได้รับบริการเป็นวัคซีนที่มีมาตรฐานสูง จากบริษัทชั้นนำที่เราคัดสรรมาให้คุณ และให้บริการฉีดโดยบุคลาการทางการแพทย์ ที่พร้อมมอบความสบายใจ และความปลอดภัยให้คุณแบบถึงบ้าน (ให้บริการเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ เท่านั้น)

 

จองฉีดวัคซีนถึงบ้าน ราคาพิเศษ!

             การจองฉีดวัคซีนเพื่อตัวคุณเอง และเพื่อคนในครอบครัวที่คุณรัก เป็นของขวัญที่ดีที่สุดที่สุดอย่างหนึ่ง เพราะสุขภาพที่ดี เป็นสิ่งที่สำคัญ และหากป่วยแล้ว แม้มีเงินมาก ก็อาจจะรักษาได้ยาก

             ฉีดวัคซีนแบบถึงบ้านกับแอปฯ หมอดี จองวันนี้ ฉีดวันไหนก็ได้ นัดวัน เวลา สถานที่ ได้ตามใจ ตามสะดวก เหมาะมากสำหรับการฉีดพร้อมกันทั้งครอบครัว สามารถกดซื้อวัคซีนให้สมาชิกในครอบครัวพร้อมกันได้ทีเดียวหลายเข็ม ในราคาพิเศษแบบ Family Package หรือแม้แต่จะจองฉีดแค่เข็มเดียว สำหรับตัวคุณเอง ก็สามารถรับบริการได้ในราคาพิเศษ ย่อมเยากว่าการฉีดที่โรงพยาบาลเอกชนโดยทั่วไป

ที่สำคัญยังสบายใจเรื่องความปลอดภัย เพราะก่อนฉีด เรามีแบบประเมินความพร้อมในการเข้ารับวัคซีนให้ทำ คล้าย ๆ กับการซักประวัติก่อนฉีด เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ การบริการของเรายังมีพยาบาลวิชาชีพคอยสังเกตการณ์อยู่ตลอด สบายใจได้ หากเกิดอาการแพ้ หรือเหตุสุดวิสัยอื่น ๆ ทีมบุคลากรทางการแพทย์ของเราก็พร้อมดูแลทันที

 

จองวัคซีนถึงบ้าน กับแอปฯ หมอดี ดีตรงนี้เอง!
 

  • จองวัคซีนวันนี้ ฉีดวันไหนก็ได้ สะดวกตอนไหนเลือกได้ตามต้องการ 
  • ในแอปฯ มีให้เลือกวัน เวลา สถานที่ฉีดวัคซีนได้เอง สมาชิกในครอบครัว นัดรวมตัวฉีดที่บ้านได้ ใครสะดวกฉีดที่คอนโดฯ ก็เหมาะสม 
  • ฉีดเสาร์-อาทิตย์สุดสัปดาห์ก็ได้ ไม่ต้องลางาน ระบุเวลาที่ต้องการฉีดในแอปฯ ได้เลย 
  • ไม่ต้องรอคิวเหมือนเมื่อก่อน ที่ต้องเข้าแถวรอที่ศูนย์ฉีดวัคซีน
  • ไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาล แค่โหลดแอปฯ จอง แล้วรอฉีดวัคซีนอยู่ที่บ้าน 
  • เมื่อไม่ต้องออกจากบ้านก็ปลอดภัย ไม่แออัด ไม่เสี่ยงเรื่องโรคติดต่อ
  • แม้ไม่เคยจองวัคซีนผ่านแอปฯ มาก่อนก็ทำได้ง่าย เพราะขั้นตอนการจองง่าย เลือกไม่กี่ขั้นตอนก็เสร็จ
  • ทำแบบคัดกรองก่อนฉีดวัคซีนในแอปฯ ได้ทันที สบายใจ ลดความเสี่ยงผลข้างเคียงในการฉีดวัคซีน

 

จองฉีดวัคซีนแบบ Home Vaccination กับแอปฯ หมอดี ต่างจากไปฉีดที่โรงพยาบาลอย่างไร?

             การฉีดวัคซีนโดยทั่วไปจะมีราคาค่อนข้างสูง บางชนิดต้องฉีดหลายเข็ม เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการป้องกันจากวัคซีนชนิดนั้นได้อย่างครบถ้วน ยิ่งจำนวนเข็มมากยิ่งต้องจ่ายแพงขึ้น แต่ถ้าฉีดวัคซีนแบบ Home Vaccination กับแอปฯ หมอดี ท่านจะได้ราคาที่ถูกกว่า และยิ่งถ้าเป็นวัคซีนชนิดที่ต้องฉีดหลายเข็ม เช่น วัคซีนไวรัสตับอักเสบบี ที่ต้องฉีด 3 เข็ม ต่อ 1 ท่าน เราก็มีราคาพิเศษ ถูกกว่าโรงพยาบาลเอกชนโดยทั่วไป แต่รับรองได้ว่าเป็นวัคซีนคุณภาพดี ผลิตโดย GlaxoSmithKline (แกล็กโซสมิทไคล์น)

             นอกจากนี้ แอปฯ หมอดี ยังมุ่งหวังให้บริการของเราเป็นบริการที่พร้อมดูแลให้คุณสะดวกและสบายใจได้ในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การจอง (ก่อนฉีด) ระหว่างฉีด และหลังฉีดวัคซีน โดยมีเว็บไซต์และสื่อโซเชียลมีเดียคอยให้ข้อมูลทางการแพทย์ การบริการ และข้อมูลของวัคซีนแต่ละชนิด พร้อมมีแอดมินที่คอยดูแลในการให้บริการ คอยตอบคำถามกับท่านที่สนใจในบริการ Home Vaccination ของแอปฯ หมอดี ทั้งหมดนี้เป็นการลดขั้นตอนที่ซับซ้อนยุ่งยากในการติดต่อแผนกต่าง ๆ ลดทอนเวลาและการรอคิว บริการ Home Vaccination ของแอปฯ หมอดี มีขั้นตอนที่เรียบง่าย รวดเร็ว เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนเมือง

 

บริการ Home Vaccination จากแอปฯ หมอดี มีวัคซีนอะไรบ้าง? 

บริการ Home Vaccination ของแอปฯ หมอดี มีวัคซีนให้บริการทั้งหมด 4 ชนิด คือ (ข้อมูล ณ วันที่ 01 ม.ค. 2566)

  1. วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่
  2. วัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบ บี
  3. วัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบ
  4. วัคซีนป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก

วัคซีนแต่ละชนิดมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ : ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นไข้หวัดใหญ่ ลดอาการรุนแรง ลดการเข้ารักษาในโรงพยาบาล และลดการแพร่เชื้อไปสู่คนรอบตัว ควรฉีดก่อนช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง เช่น ก่อนฤดูฝน ก่อนช่วงปลายฝนต้นหนาว ส่วนใหญ่จะนิยมฉีดกันในเดือนเมษายนหรือตุลาคม แต่ถ้าใครที่ไม่ว่างในช่วงเดือนดังกล่าว ก็สามารถฉีดตามโอกาสที่สะดวกได้ตลอดทั้งปี ควรฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ปีละ 1 ครั้ง (สำหรับผู้ที่มีอายุ 6 เดือนขึ้นไป) และสามารถฉีดพร้อมกับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ได้อีกด้วย
ราคา: เข็มละ 800 บาท (ครอบคลุมค่าบริการทางการแพทย์และอื่นๆ แล้ว)
ชนิดวัคซีน: วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ ซีกโลกใต้ ปี 2023
แหล่งที่มา: บริษัท GlaxoSmithKline (แกล็กโซสมิทไคล์น)
 

วัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบ บี : ช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อผ่านเลือด น้ำลาย หรือการมีเพศสัมพันธ์ ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อจากแม่สู่ลูกในครรภ์ และยังเป็นวัคซีนที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการมีภาวะตับอักเสบและโรคมะเร็งตับได้อีกด้วย เริ่มฉีดได้ตั้งแต่แรกเกิด และควรฉีดคนละ 3 เข็ม เพื่อประสิทธิภาพในการออกฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยเว้นระยะตามที่แพทย์กำหนด นั่นก็คือ ฉีดเข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรกเป็นระยะเวลา 2 เดือน และฉีดเข็ม 3 ห่างจากเข็มแรกเป็นระยะเวลา 6 เดือน โดยเริ่มฉีดเข็มแรกเมื่อไหร่ก็ได้ ตามวันเวลาที่สะดวก
ราคา: 3 เข็ม 2,390 บาท (ครอบคลุมค่าบริการทางการแพทย์และอื่นๆ แล้ว)
ชนิดวัคซีน: Engerix B
แหล่งที่มา: บริษัท GlaxoSmithKline (แกล็กโซสมิทไคล์น)
 

วัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบ : ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคปอดอักเสบ ผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปควรฉีดเป็นอย่างยิ่ง โดยสามารถฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคที่ตามมาจากอาการปอดอักเสบได้ เช่น ระบบหายใจล้มเหลว ติดเชื้อในกระแสเลือด และภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เป็นต้น ส่วนผู้ที่มีภาวะป่วยเรื้อรังด้วยโรคที่สามารถส่งผลกระทบหรือลามไปสู่ปอดได้ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคไต และโรคหอบหืด ก็ควรรีบฉีดวัคซีนชนิดนี้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ผู้ที่ยังไม่ป่วย ก็สามารถฉีดป้องกันปอดอักเสบได้ตั้งแต่อายุ 2 ปีขึ้นไป ยิ่งผู้ที่มีพฤติกรรมการสูบบุหรี่เป็นประจำก็ควรฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคปอดอักเสบไว้
ราคา: เข็มละ 3,050 บาท (ครอบคลุมค่าบริการทางการแพทย์และอื่นๆ แล้ว)
ชนิดวัคซีน: วัคซีนป้องกันปอดอักเสบ 13 สายพันธุ์ ได้แก่ 1, 3, 4, 5, 6A, 6B, 7F, 9V, 14, 19A, 19F, 18C และ 23F
แหล่งที่มา: บริษัท Pfizer (ไฟเซอร์)

วัคซีนป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก : นอกจากจะฉีดเพื่อป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกได้แล้ว ยังลดโอกาสเสี่ยงติดเชื้อไวรัสที่ทำให้เป็นโรคต่าง ๆ ได้อีกหลายโรค เช่น โรคมะเร็งทวารหนัก โรคมะเร็งปากและคอ ทั้งนี้ ถึงแม้ว่ามะเร็งปากมดลูกจะเป็นโรคที่เกิดในเพศหญิง แต่ผู้ชายก็ควรฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกเช่นกัน เพราะวัคซีนชนิดนี้สามารถป้องกันไม่ให้ผู้ชายเป็นฝ่ายแพร่เชื้อไวรัสเอชพีวี โดยการเป็นพาหะไปสู่ผู้หญิงผ่านการมีเพศสัมพันธ์ ลดความเสี่ยงต่อโรคที่เกิดจากไวรัสนี้ และลดโอกาสเป็นหูดหงอนไก่ได้อีกด้วย ควรฉีดทั้งหมด 3 เข็ม เว้นระยะตามที่แพทย์กำหนด นั่นก็คือ ฉีดเข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรกเป็นระยะเวลา 2 เดือน และฉีดเข็มสุดท้าย ห่างจากเข็มที่ 2 เป็นระยะเวลา 4 เดือน โดยเริ่มฉีดเข็มแรกเมื่อไหร่ก็ได้ ตามวันเวลาที่สะดวก
ราคา: วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกชนิด 4 สายพันธุ์ ควรฉีด 3 เข็ม ราคา 7,700 บาท (ครอบคลุมค่าบริการทางการแพทย์และอื่นๆ แล้ว)
          วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกชนิด 9 สายพันธุ์ ควรฉีด 3 เข็ม ราคา 18,700 บาท (ครอบคลุมค่าบริการทางการแพทย์และอื่นๆ แล้ว)
ชนิดวัคซีน: วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกชนิด 4 สายพันธุ์ ได้แก่ 6,11,16,18
                 วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกชนิด 9 สายพันธุ์ ได้แก่ 6,11,16,18,31, 33, 45, 52, 58
แหล่งที่มา: บริษัท MSD (เอ็มเอสดี) มีชื่อเต็มว่า Merck & Co. Inc.

 

วัคซีนป้องกันโรคงูสวัส ชนิดใหม่ (Shingrix) : สามารถป้องกันโรคได้สูงสุดถึง 97%  ทั้งยังช่วยบรรเทาความเจ็บปวด  รวมทั้งลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนอันตราย ในกรณีติดโรค อาทิ  อาการปวดตามแนวเส้นประสาทเรื้อรัง อาการตาอักเสบ แผลที่กระจกตา และอาการปอดหรือสมองอักเสบ เป็นต้น 

วัคซีนป้องกันงูสวัดนี้ เหมาะสำหรับ..
- ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ทั้งที่เคยเป็นและไม่เคยเป็นโรคงูสวัด หรือโรคอีสุกอีใสมาก่อน
- ผู้ใหญ่ที่มีอายุ 50-59 ปี ที่เคยเป็นอีสุกอีใส หรืองูสวัด
- ผู้ป่วยที่มีภูมิต้านทานไม่แข็งแรง เช่น ผู้ป่วยมะเร็ง
- คนที่อยู่ในสภาวะเครียดหนัก พักผ่อนน้อย

ราคา: 2 เข็ม ครบโดส  ราคาพิเศษ 12,000 บาท จากราคาทั่วไป  13,xxx บาท (ครอบคลุมค่าบริการทางการแพทย์และอื่น ๆ แล้ว)
ชนิดวัคซีน: วัคซีนงูสวัด Shingrix  รายเดียวที่มี Clinical Paper รับรองประสิทธิภาพในระยะยาว 
แหล่งที่มา: บริษัท GlaxoSmithKline (แกล็กโซสมิทไคล์น)

 

รายละเอียดจองฉีดวัคซีนแบบถึงบ้าน กับแอปฯ หมอดี

ตามคำแนะนำในการให้วัคซีนป้องกันโรคสำหรับผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ จากสมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย ปี พ.ศ. 2561 แบ่งตามอายุ

  • ผู้ที่มีอายุ 19 – 65 ปี ควรฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ปีละ 1 เข็ม และฉีดกระตุ้นภูมิทุกปี
  • ส่วนวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี ให้ฉีด 3 เข็ม โดยควรพิจารณาตรวจภูมิก่อนฉีด
  • วัคซีนป้องกันปอดอักเสบ แนะนำเป็นพิเศษสำหรับกลุ่มเสี่ยงสูง ที่หากติดเชื้อจะมีอาการรุนแรง คือผู้สูงอายุ โดยให้ฉีด 1 เข็ม 
  • วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก แนะนำให้ฉีดทั้งผู้หญิงและผู้ชาย โดยผู้หญิงนั้นฉีดเพื่อป้องกันโรค ส่วนผู้ชายนั้นฉีดเพื่อป้องกันการเป็นพาหะนำโรค หรือป้องกันการติดเชื้อหามีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก และยังสามารถป้องกันการเป็นหูดหงอนไก่ โดยให้ฉีดทั้งหมด 3 เข็ม เช่นเดียวกัน ทั้งหญิงและชาย
     

ตามคำแนะนำในการให้วัคซีนป้องกันโรคสำหรับผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ จากสมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย ปี พ.ศ. 2561 แบ่งตามโรคประจำตัว

 

สตรีมีครรภ์ 
>> ควรฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ แต่ไม่แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปาดมดลูก หากฉีดเข็มแรกไปแล้ว สามารถฉีดเข็ม 2 และเข็ม 3 ต่อหลังคลอดได้ และสามารถฉีดช่วงให้นมบุตรได้เช่นกัน

 

บุคลากรทางการแพทย์ 
>> แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ป้องกันไวรัสตับอักเสบบี เป็นพื้นฐานไว้ เพราะต้องอยู่ใกล้และดูแลผู้ป่วย มีความเสี่ยงติดเชื้อโรคต่าง ๆ จำเป็นต้องได้รับวัคซีนอย่างเหมาะสม

 

ผู้ป่วยโรคหัวใจ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง เบาหวาน ไตเรื้อรัง ผู้ป่วยตับแข็ง ผู้ป่วยตัดม้าม ผู้ป่วย HIV ผู้ป่วยที่ได้รับยากดภูมิ ผู้ป่วยที่เปลี่ยนไขกระดูก
>> แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ป้องกันไวรัสตับอักเสบบี และฉีดวัคซีนป้องกันปอดอักเสบเพิ่ม เพราะเป็นผู้มีโรคประจำตัว ร่างกายอ่อนแอ หากติดเชื้อปอดอักเสบ จะเกิดอันตราย มีอาการรุนแรงได้

 

ผู้ป่วย HIV 
>> แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก เพราะเป็นกลุ่มเสี่ยง ที่เสี่ยงติดเชื้อมะเร็งปากมดลูกได้มากกว่าคนทั่วไป

 

ผู้ป่วยที่จะไปประกอบพิธีฮัจญ์
>> เนื่องจากต้องเดินทาง เจอสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง และต้องเจอกับความแออัด ควรฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ เพื่อป้องกันโรค และลดโอกาสเกิดอาการรุนแรงได้

 

ข้อควรระวัง :
- วัคซีนไข้หวัดใหญ่สามารถฉีดร่วมกับวัคซีนอื่นได้ แต่ต้องฉีดคนละข้างของต้นแขน
- สตรีที่ตั้งครรภ์ไม่ควรเข้ารับการฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี
- วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก ไม่ควรฉีดร่วมกับวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีและวัคซีนป้องกันปอดอักเสบ
 

สรุปรายละเอียดพร้อมข้อแนะนำในการฉีดวัคซีน

 

7 ขั้นตอนการจองฉีดวัคซีนถึงบ้าน กับแอปฯ หมอดี

วิธีการจองบริการฉีดวัคซีนที่บ้าน (Home Vaccination) ผ่านแอปฯ หมอดี

1. ดาวน์โหลดแอปฯ ลงทะเบียนเข้าใช้งาน และเข้าสู่ระบบ “บริการฉีดวัคซีน ถึงบ้าน”

  • โดยสามารถดาวน์โหลดแอปฯ ได้จาก Apps Store / Play Store หรือคลิก>> https://mordee.app.link/SvBMEe2w9ub จากนั้นเลือกเมนูโปรไฟล์ เพื่อลงทะเบียนเข้าใช้งาน ด้วยเบอร์โทรศัพท์ แล้วคลิกแบนเนอร์ “บริการฉีดวัคซีน ถึงบ้าน” ซึ่งจะอยู่ที่ด้านบน ในหน้าแรกของแอปฯ

2. เลือกชนิดวัคซีนและจำนวนเข็ม กด + เพิ่มวัคซีนตามต้องการ เสร็จแล้วกดเช็กตระกร้าสินค้า 
3. ชำระเงิน ผ่านบัตรเครดิต หรือพร้อมเพย์ จากนั้นกดปุ่มทำนัดหมายได้เลย หรือทำภายหลัง ในเมนู นัดหมาย 
4. ทำนัดหมาย กดปุ่มเลือกผู้รับบริการ ในลิสต์วัคซีนที่ได้สั่งซื้อไว้
5. เพิ่มชื่อผู้รับบริการ กดถัดไป แล้ว เลือกสถานที่ วัน เวลา ให้เรียบร้อย แล้วกดจองนัดหมาย และยืนยัน
6. ยืนยันนัดหมาย หากการนัดหมายสมบูรณ์ จะขึ้นว่า เสร็จสิ้น

แชร์บทความ:

บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

ดูทั้งหมด

ยอมรับนโยบายการใช้คุกกี้

การตั้งค่าคุกกี้
นโยบายการใช้คุกกี้นี้ จะอธิบายถึงประเภท เหตุผล และลักษณะการใช้คุกกี้ รวมถึงวิธีการจัดการคุกกี้ ของเว็บไซต์ทั้งหมด โดยท่านสามารถดูรายการคุกกี้และตั้งค่าการยอมรับการใช้งาน ดูรายละเอียดเพิ่มเติม