จริงหรือมั่ว? กินแล้วนอนบ่อย ๆ เสี่ยง! โรคกรดไหลย้อน

กินแล้วนอน ระวัง! เป็นโรคกรดไหลย้อน คำเตือนแบบนี้ คุณอาจเคยได้ยินกันบ่อย ๆ ใช่ไหม? 

แต่ความจริงแล้ว พฤติกรรมดังกล่าว เพิ่มความเสี่ยงให้เกิดโรคกรดไหลย้อนได้จริงหรือไม่?  แล้วหากพบว่าเป็นโรคนี้ จะมีวิธีบรรเทาอย่างไร? พบคำตอบได้จากคุณหมอวิศรุต ภาคลาภ แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป จากแอปฯ หมอดี

ทำความรู้จักโรคกรดไหลย้อน 

โรคกรดไหลย้อน หรือ Gastroesophageal Reflux Disease : GERD  คือ ภาวะที่น้ำย่อย หรือแก๊สในกระเพาะอาหาร ไหลย้อนขึ้นไปที่หลอดอาหารมากผิดปกติ จนส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน

3 สาเหตุหลักโรคกรดไหลย้อน

 1. หูรูดส่วนปลายของหลอดอาหารทำงานผิดปกติ : ความดันหูรูดของหลอดอาหารส่วนปลายต่ำลง หรือคลายตัวบ่อย  ทำให้ป้องกันสารคัดหลั่งที่ไหลย้อนจากกระเพาะอาหารได้ไม่ดี

2. หลอดอาหารหรือกระเพาะอาหารบีบตัวผิดปกติ :  ทำให้อาหารที่กินเข้าไป เคลื่อนตัวช้า ค้างอยู่ในหลอดอาหารหรือกระเพาะอาหารนาน  จนเพิ่มโอกาสให้กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นไปได้

3. พฤติกรรมการใช้ชีวิต : เช่น กินรสจัด ของทอด ของมันมาก ๆ , กินแล้วนอนทันที , ชีวิตที่เคร่งเครียด ทำให้หลอดอาหารไวต่อกรด , ดื่มน้ำอัดลม ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ  ทั้งหมดนี้ ล้วนเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดโรคกรดไหลย้อนได้ทั้งสิ้น

นอกจากนี้  ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดโรคกรดไหลย้อนได้อีกมาก อาทิ

•  ติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิดในระบบทางเดินอาหาร
•  โรคอ้วน โรคเบาหวาน
•  การตั้งครรภ์ 
•  พันธุกรรม
•  การกินยาแก้ปวดบางชนิด

กินแล้วนอน เพิ่มความเสี่ยงกรดไหลย้อนได้จริง!

เพราะระหว่างที่เราเอนตัวนอน หรือนอนราบ หูรูดบริเวณหลอดอาหารและกระเพาะอาหารจะทำงานได้ไม่เต็มที่  ทำให้กรดไหลย้อนขึ้นไปง่ายขึ้น

ดังนั้น  จึงควรกินอาหารให้เป็นเวลา ไม่กินมื้อดึกเกินไป และไม่เอนตัวนอน หลังกินอาหารอย่างน้อย 3 ชั่วโมง จะช่วยลดความเสี่ยงกรดไหลย้อนได้

อาการเด่นของกรดไหลย้อนเป็นอย่างไร?

• แสบร้อนที่ลิ้นปี่ หน้าอก หรือลำคอ โดยเฉพาะหลังกินอาหารหนัก ๆ
• เรอเปรี้ยว และมีน้ำรสเปรี้ยวหรือรสขมขึ้นมาในปาก
• ท้องอืด  จุกเสียด คลื่นไส้ เหมือนอาหารไม่ย่อย
• ไอแห้ง เจ็บคอเรื้อรัง 
• กลืนอาหารติดขัด เหมือนมีก้อนในลำคอ

ปรับพฤติกรรม ดูแลตัวเองยังไงดี? เมื่อเป็นโรคกรดไหลย้อน

1. กินอาหารให้เป็นเวลา ไม่กินแล้วนอนทันที
2. เลี่ยงอาหารรสจัด ของทอด ของมัน 
3. เลี่ยงการสูบบุหรี่หรือการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
4. กินแต่ละมื้ออย่างพอดี ไม่กินหนักในมื้อเดียว
5. ออกกำลังกาย ควบคุมน้ำหนักไม่ให้เกินค่ามาตรฐาน 

โรคกรดไหลย้อน แม้ไม่ร้ายแรง แต่ถ้าไม่รีบปรับพฤติกรรม หรือรีบรักษาอย่างเหมาะสม อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน อย่าง โรคหลอดอาหารอักเสบ หรือเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งหลอดอาหารได้

ทางที่ดี ถ้ามีอาการคล้ายกรดไหลย้อน ควรรีบปรึกษาแพทย์ ปรึกษาแพทย์ออนไลน์ผ่านแอปฯ หมอดี ทำนัดได้ตามสะดวกทันที ไม่ต้องออกจากบ้าน ปรึกษาจากออนไลน์ที่ไหนก็ได้ พร้อมจัดส่งยาให้ถึงมือคุณ

5 ขั้นตอน ปรึกษาแพทย์ออนไลน์กับแอปฯ หมอดี 
1. ดาวน์โหลดแอปฯ หมอดี คลิก >> https://mordee.app.link/mordee จากนั้นเลือกเมนูโปรไฟล์ เพื่อลงทะเบียนเข้าใช้งาน
2. ไปที่หน้าแรกของแอปฯ กดแถบค้นหา เลือกแผนกโรคทั่วไป  หรือแผนกอายุรกรรม หากต้องการปรึกษาเกี่ยวกับโรคกรดไหลย้อน 
3. เลือกแพทย์ที่ต้องการปรึกษา แล้วทำนัดหมาย โดยเลือกวันและเวลาที่ต้องการ แล้วเลือกรูปแบบการปรึกษาเป็น วิดีโอคอล โทร หรือ แชต จากนั้นทำการชำระเงิน หรือกรอกโค้ดส่วนลด (ถ้ามี) 
4. เข้าห้องสนทนาในแอปฯ เพื่อทำการปรึกษา เมื่อถึงเวลานัดหมาย
5. รอสรุปผลการปรึกษา พร้อมใบสั่งยาจากแพทย์ (หากมี) โดยสามารถสั่งซื้อยา แล้วรอรับยาที่บ้านได้

สอบถามเพิ่มเติมหรือปรึกษาหมอผ่านไลน์ ได้ที่ Line ID: @mordeeapp

#MorDee #หมอดี #หมอประจำบ้านในมือคุณ 
#หาหมอออนไลน์